Search

นักวิ่งออกกำลังกายวางขวดน้ำในสวนสาธารณะ ถูกเจาะรูวางยา ก่อนดื่มทำพิษกำเริบหามตัวส่ง รพ. - ข่าวช่อง3 - CH3 Thailand NEWS

cicientertaiment.blogspot.com

24 มิ.ย. 2563
1,545 ครั้ง

เตือนภัยนักวิ่งที่วิ่งออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ มีผู้ชายคนหนึ่งวางขวดน้ำไว้ในสวนสาธารณะศาลากลางนนทบุรีแล้วไปวิ่ง จากนั้นก็หมดสติเข้าโรงพยาบาล เชื่อถูกวางยา เพราะพบที่ขวดน้ำถูกเจาะรู

โดยผู้โพสต์ เขียนเล่าเหตุการณ์ในเฟซบุ๊กของตัวเอง บอกว่า ช่วง 2 ทุ่มครึ่ง วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน ตนเองขี่มอเตอร์ไซค์ไปวิ่งที่สวนสาธารณะศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ตามปกติ และซื้อน้ำดื่มเจ้าประจำไปวางไว้บริเวณสนามตะกร้อ โดยยังไม่ได้เปิดดื่ม หลังจากวิ่งไปได้ประมาณ 4 กิโลเมตร สวนปิดไฟจึงเลิกวิ่งและไปดื่มน้ำ

ปรากฎว่า รสชาติของน้ำแปลกไปจากเดิม รู้สึกเฝื่อนๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่ได้ดื่มไป 1 ใน 3 ของขวด แล้วขี่รถกลับไปที่ทำงาน โดยนำขวดน้ำติดมือไปด้วย วางไว้ที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นได้นั่งกินจิ้มจุ่มกับน้องๆ และจิบเบียร์ไป 1 อึก จู่ๆ ก็รู้สึกหายใจติดขัด เห็นภาพหมุน เหมือนจะอาเจียนและกำลังจะหมดสติ น้องๆ ที่ทำงานนำส่งโรงพยาบาล 

นายวิโรจน์ ไศละบาท อายุ 42 ปี ผู้เสียหายได้นำเอาเรื่องนี้ไปโพสต์ลงโซเชียล โดยเขาไปวิ่งออกกำกายที่สวนสาธาณะแห่งนี้เป็นประจำ ซท้อน้ำก็ซื้อเจ้าประจำ ทุกครั้งไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ครั้งนี้เชื่อว่าตนเองถูกวางยา เพราะที่ขวดน้ำมีรอยเจาะรู ประกอบกับน้ำมีรสเฝื่อน ขณะนี้รอผลตรวจปัสสาวะจากทางโรงพยาบาลว่าตนเองโดนสารพิษชนิดใด คาดว่าคนที่ทำน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะหลังเกิดเหตุเขาได้ไปคุยกับคนขายน้ำเจ้าประจำ ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้รับข้อมูลจาก รปภ.ว่า ก่อนหน้าที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ 4 วัน ที่นี่มีคนถูกโปะยาสลบด้วย ทั้งนี้ อยากเตือนให้นักวิ่งระมัดระวังตัวเอง เวลาวิ่งไม่ควรวางขวดน้ำทิ้งไว้

อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายวันที่ 23 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ลงบพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว




June 24, 2020 at 05:49AM
https://ift.tt/319WMRL

นักวิ่งออกกำลังกายวางขวดน้ำในสวนสาธารณะ ถูกเจาะรูวางยา ก่อนดื่มทำพิษกำเริบหามตัวส่ง รพ. - ข่าวช่อง3 - CH3 Thailand NEWS

https://ift.tt/39JQ0CU


Bagikan Berita Ini

0 Response to "นักวิ่งออกกำลังกายวางขวดน้ำในสวนสาธารณะ ถูกเจาะรูวางยา ก่อนดื่มทำพิษกำเริบหามตัวส่ง รพ. - ข่าวช่อง3 - CH3 Thailand NEWS"

Post a Comment

Powered by Blogger.