Search

เปิดโผ 20 หุ้น SET100 กำไร Q2/63 โตแกร่งสวนโควิด! - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

cicientertaiment.blogspot.com

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ประกาศงบไตรมาส 2/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2563 มานำเสนอเพื่อให้เห็นแนวโน้มผลการดำเนินงานในงวดดังกล่าวและให้เห็นทิศทางธุรกิจในไตรมาสที่เหลือ

โดยครั้งนี้ทำการคัดเลือกหุ้นในกลุ่มหุ้น SET100 ที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหุ้นทั้ง 50 ตัว พบว่ามี 18 บริษัทที่มีผลกำไรเติบโต สวนปัจจัยลบทั้ง สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระทบต่อภาพรวมธุรกิจทุกกลุ่มในช่วงครึ่งปีแรก 2563

สำหรับ 20 หุ้นที่มีกำไรเติบโตประกอบด้วย TU,TOP,STA,AP,GPSC,TASCO,BGRIM,CBG,PRM,JMT, CPF,MEGA,SCC,TQM,EGCO,HANA,CHG,และMTC อย่างไรก็ตามจะขอนำเสนอข้อมูลประกอบหุ้นเพียง 5 อันดับแรกของตารางเพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนดังตารางประกอบ

โดยอันดับ 1 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU  กำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 อยู่ที่1,716.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,439.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 111.48 ล้านบาท

บล.คิงส์ฟอร์ด  ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  TU (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 15.98 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิงวด ไตรมาส 2/63 ที่ 1,716 ล้านบาท(+1,440%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,+69% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ยังสามารถเติบโตได้ดีและสูงกว่าตลาดคาด  ได้ปัจจัยหนุนทางรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีสัดส่วนสูงขึ้นจากความต้องการอาหารกระป๋องในช่วงการระบาดของCovid-19 โดยทั้ง 2 ประเภทธุรกิจนี้มี มีGross Marginที่สูงราว 18-26% สูงกว่าประเภทธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง(GM ราว 7-12%)

สำหรับไตรมาส 3/63 ร้านอาหารจะเริ่มกลับมาเปิดจึงจะช่วยให้ demand อาหารทะเลแช่แข็งฟื้นตัว ถือเป็นปัจจัยบวกเช่นกัน ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 63 และ ปี 64 ยังเติบโตต่อเนื่องที่ 4,690 ล้านบาท(+22.91%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ 5,196 ล้านบาท(+10.78%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ตามลำดับ

อันดับ 2 บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP กำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 2,480.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 337.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 566.91 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าว นื่องจากมีกำไรขั้นต้นจากกลุ่มอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาสารเบนซีนและโทลูอีนกับน้ำมันเบนซิน 95 ที่ปรับตัวดีขึ้น เมื่อรวมผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันจากระดับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงใน ไตรมาส 2/63ทำให้มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันลดลง 2.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ดี มีการกลับรายการมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 2,267 ล้านบาท และขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิ 45 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/62 มีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากการรับรู้ประมาณการหนี้สินสำหรับผลประโยชน์พนักงาน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ จำนวน 384 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายจากการซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผน จำนวน 352 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มี EBITDA เพิ่มขึ้น 809 ล้านบาท

นอกจากนี้ เมื่อรวมกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงิน 389 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิที่เพิ่มขึ้น 1,451 ล้านบาท ส่งผลให้ใน ไตรมาส 2/63 กลุ่มไทยออยล์มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,913 ล้านบาท

อันดับ 3 บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA กำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 1,093.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 305.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 270.04 ล้านบาท

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีปริมาณการ ขายถุงมือยางรวม 7,414 ล้านชิ้น ขยายตัวร้อยละ 63.1 เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 18.1 เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน พร้อมทั้งมีราคาขายเฉลี่ยและอัตราการททำกำที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ในไตรมาส 2/63

บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 15,256.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่1,093.7 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 305 เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 28 เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ตลอดจนสร้างสถิติใหม่ให้แก่ อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 16.2 และ 7.2 ตามลำดับ

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” STA ราคาเป้าหมาย 34 บาท ธุรกิจยางธรรมชาติดูดีขึ้นทั้งคำสั่งซื้อและราคาที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่กำไรของ STGT ที่จะทำ New High เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตและชดเชยสัดส่วนการถือที่ลดลงหลัง IPO ได้หมด

คาดปี 2564 จะพลิกมามีกำไรปกติที่ 4 พันลบ. ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PER เพียง 11 เท่า และหากอิงจาก NAV จากการถือถือหุ้น STGT ที่ 56% จะคิดเป็นมูลค่าในตัว STA ที่ 41 บาท (ไม่รวมมูลค่าธุรกิจยางธรรมชาติของ STA)

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)  หรือ AP กำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 1,215.45  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 488.25 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้ในไตรมาส 2/2563 อยู่ที 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 63.6% โดยเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 7,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.4 จากปีก่อน และรายได้ค่าบริการและค่าบริหารจัดการอีก 209 ล้านบาท

บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” AP ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท/หุ้น รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้น 96% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 149% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 1.2 พันล้านบาทตามคาด และทำสถิติใหม่จากส่วนแบ่งกำไรของ JV โดยที่รายได้ในกลุ่มของ Low-rise เพิ่มขึ้นสูงสุด 108% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัทรายงานอัตรากำไรขั้นต้นที่ 29.6% ลดลงจากการทำโปรโมชั่น และผู้บริหารรายงานว่ายอดจองจะยังแข็งแกร่งในไตรมาส 3/63 และไม่ได้มาจากอุปสงค์ที่ค้างมาจากช่วงก่อนหน้า ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2563 คิดเป็น 56% จากประมาณการทั้งปีการดำเนินงานควบคุมได้, ยอดโอนต่างชาติเลื่อนไปปลายปี 2564

คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังปี 2563 เป็น 30% หนุนโดยการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ และตั้งเป้าส่วนแบ่งกำไรจาก JV ที่ 1.4 พันล้านบาท (773 ล้านบาทรับรู้ใน 1H20) และผลประกอบการไตรมาส 3 จะอ่อนแอลงจากไตรมาส 2 เนื่องจากยอดโอนส่วนใหญ่จะกลับมาในช่วงไตรมาส 4 และโครงการของกลุ่มต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 25% ของงานในมือจะโอนในช่วงปี 2564

อันดับ 5 บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC กำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 1,895.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,081.15 ล้านบาท

โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้น 278 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน มาจากราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลง รวมถึงลูกค้าอุตสาหกรรมของศูย์ผลิตสาธารณูปการระยองมีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำมากขึ้น

ขณะที่กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) และอื่นๆ เพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท จากการรับรู้กำไรขั้นต้นของบริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ จำกัด (GRP) หลังการเข้าซื้อกิจการเมื่อ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับกำไรขั้นต้นบริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วมจำกัด (CHPP) ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจการให้บริการผู้รับเหมาออกแบบและก่อสร้างในไตรมาส 2

ขณะที่บริษัทมีรายได้ค่ารอนสิทธิในที่ดินของบริษัท โกลว์ ไอพีดี 3 จำกัด มูลค่า223 ล้านบาทที่ได้รับจากกฟผ.เพื่อนำไปใช้สร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านพื้นที่ นอกจากนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ลดลง 340 ล้านบาท มาจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง 624 ล้านบาท หรือ 39% จากการนำเงินเพิ่มทุนไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นบางส่วน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารลดลง 28% เนื่องจากการบันทึกค่าชดเชยเพิ่มเติมผลประโยชน์พนักงานของง GLOW

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน




August 21, 2020 at 08:01AM
https://ift.tt/2CMp2jJ

เปิดโผ 20 หุ้น SET100 กำไร Q2/63 โตแกร่งสวนโควิด! - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

https://ift.tt/39JQ0CU


Bagikan Berita Ini

0 Response to "เปิดโผ 20 หุ้น SET100 กำไร Q2/63 โตแกร่งสวนโควิด! - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์"

Post a Comment

Powered by Blogger.